ตามรอยองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ตอนที่ 28
ออกพรรษาปลดเปลื้องภาระมุ่งแสวงหาธรรมให้แจ่มแจ้ง
บ้านหนองขอน อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ
เมื่อออกพรรษาแล้ว องค์หลวงปู่มั่น ได้เดินทางไปส่ง โยมแม่ชีจันทร์ ยังบ้านคำบง เพื่อให้หมู่ญาติได้ดูแลต่อ เมื่อกลับจากบ้านคำบงแล้ว องค์หลวงปู่มั่น ได้พิจารณาถึงคุณธรรมภายในแล้ว จึงปรารภที่จะขอลาจากหมู่คณะ เพื่อปฏิบัติธรรมแห่งแจ่มแจ้ง โดยมอบให้ พระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม ได้ดูแลหมู่คณะต่อ หลังจากนั้น องค์หลวงปู่มั่น จึงได้เดินทางจำพรรษาที่กรุงเทพฯ พร้อมกับท่านเจ้าคุณพระปัญญาพิศาลเถร (หนู ฐิตปญฺโญ) ออกพรรษา องค์หลวงปู่มั่น ได้ติดตาม ท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท) ยังวัดเจดีย์หลวง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ท่านจาริกวิเวกเป็นระยะเวลา 12 ปีในภาคเหนือ
ออกพรรษาพาโยมแม่ชีจันทร์กลับบ้านคำบง
ออกพรรษาแล้ว องค์หลวงปู่มั่น ได้พาคณะศิษยานุศิษย์ จากบ้านหนองขอน มายังบ้านบ่อชะเนง ซึ่งพระอาจารย์ฝั้นและคณะได้จำพรรษาอยู่ องค์หลวงปู่มั่น ปรึกษาหารือกับคณะศิษยานุศิษย์ ในอันที่จะเดินทางเข้าเขตตัวเมืองอุบลราชธานี เพื่อเทศนาสั่งสอนประชาชน เมื่อเดินทางมาถึงจังหวัดอุบลราชธานีพำนักอยู่ที่วัดบูรพา
ในระหว่างที่ท่านพักอยู่วัดบูรพานั้น ท่านได้พาคุณแม่ชีจันทร์ แก่นแก้ว โยมมารดาจากเมืองอุบลฯ ไปอยังบ้านคำบง ตามที่ท่านตั้งใจไว้ให้ญาติดูแลในวัยชรา สุดกำลังที่พระลูกชายคือ หลวงปู่มั่น จะดูแลได้
วัดป่าสันติธรรม บ้านบ่อชะเนง ในอดีต
ปรารภออกจากหมู่คณะภาวนาให้แจ่มแจ้ง
ภายหลังจากได้รับ ธรรมะอัศจรรย์ จากการวิเวกภาวนา ณ ถ้ำสาริกา ซึ่งกล่าวกันว่า ท่านได้รับอริยผลในขั้นที่สาม หลังจากนั้นได้เดินทางกลับสู่ภาคอีสานจำพรรษายังวัดบูรพา อ.เมือง จ.อุบลฯ จำพรรษาในปี พ.ศ.2458 และเริ่มรับศิษย์อบรมธรรมท่านแรก คือ พระอาจารย์สิงห์ เป็นการเปิดศักราชกองทัพธรรมพระกรรมฐาน
ต่อจากนั้นองค์หลวงปู่มั่น ได้จาริกในแถบพื้นที่อีสานเหนือ โดยเน้นหนักในการเผยแผ่ธรรม เกี่ยวของกับหมู่คณะเป็นส่วนมาก การภาวนาวิเวกส่วนองค์มีน้อย จนทำให้ท่านเห็นว่ากำลังของท่านยังไม่พอ จำเป็นต้องมีระยะเวลาในการออกจากหมู่คณะ ภาวนาโดดเดี่ยว เพื่อให้ถึงอริยผลในขั้นที่สี่ ซึ่งเป็นขั้นสุดท้าย อันจะเป็นประโยชน์สูงสุดทั้งตัวท่านเองและสั่งสอนหมู่คณะในภายหลัง
หลวงพ่อวิริยังค์ ได้บันทึกไว้ในประวัติองค์หลวงปู่มั่น ถึงการปรารภความเพียร ที่จำเป็นต้องทำให้แจ่มแจ้งก่อน ไว้ว่า
“จะออกจากหมู่คณะไปแสวงหาสถานที่วิเวก เพื่อจะได้มีโอกาสพิจารณาค้นคว้าในปฏิปทาสัมมาปฏิบัติ ให้ได้รับความเข้าใจชัดเจน และแจ่มแจ้งเข้าไปอีก แล้วจะได้ปฏิปทาอันถูกต้องนั้นฝากไว้แก่เหล่าสานุศิษย์ในอนาคตต่อไป เพราะพระธรรมวินัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พระองค์ทรงตรัสไว้ดีแล้วนั้น ย่อมมีนัยอันสุขุมลุ่มลึกมาก ยากที่จะทำความเข้าใจให้ถูกต้องตามพุทธประสงค์ได้ ผู้ปฏิบัติตามรอยพระบาทพระพุทธองค์และปฏิปทาที่พระอริยเจ้าได้ดำเนินมาก่อนแล้วนั้น เมื่อไม่เข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว ย่อมจะเขวไปจากปฏิปทาที่ถูกต้องก็เป็นได้ หรืออาจดำเนินไปโดยผิดๆ ถูก ๆ”
หลวงตาพระมหาบัว ได้บันทึกไว้ในประวัติองค์หลวงปู่มั่น ถึงการปรารภถึงความจำเป็นที่จะต้องออกจากหมู่คณะ ไว้ว่า
“ท่านเล่าว่า พอเร่งความเพียรทางปัญญาเข้ามากทีไร ยิ่งทำให้จิตใจจืดจางออกจากหมู่คณะมากขึ้น และกลับดูดดื่มทางความเพียรมากเข้าทุกที ทั้งที่ทราบเรื่องของตัวมาโดยลำดับว่ากำลังของเรายังไม่พอ แต่ก็จำต้องอยู่รออบรมหมู่คณะพอให้มีหลักฐานทางใจบ้าง....
....ท่านเล่าว่า พอเร่งความเพียรทางปัญญาเข้ามากทีไร ยิ่งทำให้จิตใจจืดจางออกจากหมู่คณะมากขึ้น และกลับดูดดื่มทางความเพียรมากเข้าทุกที ทั้งที่ทราบเรื่องของตัวมาโดยลำดับว่ากำลังของเรายังไม่พอ แต่ก็จำต้องอยู่รออบรมหมู่คณะพอให้มีหลักฐานทางใจบ้าง
ประกอบระยะนั้นท่านรับโยมมารดามาบวชเป็นอุบาสิกาอบรมอยู่ด้วยประมาณ ๖ ปี จะไปมาทางใดไม่ค่อยสะดวก ทำให้เป็นอารมณ์ห่วงใยอยู่เสมอ เลยทำให้ท่านตัดสินใจจะเอาโยมมารดาไปส่งที่จังหวัดอุบลราชธานี มารดาท่านก็เห็นดีด้วยไม่ขัดอัธยาศัย......”
มอบพระอาจารย์สิงห์ดูแลหมู่คณะ
จากบันทึกของ หลวงพ่อวิริยังค์ ที่กล่าวถึงในประวัติองค์หลวงปู่มั่น ได้บันทึกว่า ในวันเพ็ญเดือนสาม ซึ่งเป็นวันมาฆบูชา ในปี พ.ศ.2471 ได้มีคณะศิษย์ติดตามมาพำนักกับองค์หลวงปู่มั่น ณ วัดบูรพา อ.เมือง จ.อุบลฯ ประกอบด้วย
“คณะสานุศิษย์เก่า ๆ ทั้งหลาย อันมีอาจารย์อุ่น ธมฺมธโร, อาจารย์อ่อน ญาณสิริ, อาจารย์ฝั้น อาจาโร, อาจารย์เกิ่ง อธิมุตฺตโก พร้อมด้วยศิษย์อาจารย์หลุย อาจารย์กว่า สุมโน, อาจารย์คูณ, อาจารย์สีลา, อาจารย์ดี ( พรรณานิคม ) อาจารย์บุญมา (วัดป่าบ้านโนนทัน อุดรธานี ในปัจจุบันนี้ ) อาจารย์ทอง อโสโก อาจารย์บุญส่ง (บ้านข่า) อาจารย์หล้า หลวงตาปั่น (อยู่พระบาทคอแก้ง) ทราบข่าวว่าท่านอาจารย์มั่น ฯ เดินทางมาพำนักอยู่ในจังหวัดอุบลฯ ทุกองค์เหล่านี้ก็ได้ติดตามมาในเดือน ๓ เพ็ญ บรรดาศิษย์ทั้งหมด มีท่านอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม เป็นต้น ก็ได้ร่วมประชุมอบรมธรรมปฏิบัติอย่างที่เคย ๆ ปฏิบัติกันมา”
ในกาลนั้น ท่านได้ประชุมปรารภถึงความจำเป็นที่ท่านจะต้องออกจากหมู่คณะ เพื่อทำความเพียร พอดีขณะนั้นท่านเจ้าคุณปัญญาพิศาลเถระ (หนู) เดินทางจากกรุงเทพฯ มาพักอยู่ที่วัดบูรพา และจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ และได้ชักชวนองค์หลวงปู่มั่น ให้เดินทางไปกรุงเทพฯ ร่วมกันด้วย
องค์หลวงปู่มั่น ได้ตอบรับและร่วมเดินทางไปกรุงเทพฯ จำพรรษาวัดปทุมวนารามในพรรษากาลปี พ.ศ.2471 หลังจากนั้น จึงได้ติดตาม ท่านเจ้าคุณพระอุบาลีฯ วัดบรมนิวาส เดินทางไป จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นโอกาสที่องค์หลวงปู่มั่น ได้ออกจากหมู่คณะภาวนาส่วนองค์ในช่วงระยะเวลา 12 ปี ระหว่างปี พ.ศ.2472 – 2483 ตามความมุ่งมั่นขององค์ท่าน จนได้ถึงที่สุดแห่งพรหมจรรย์ เผยแผ่พระศาสนาอย่างแจ่มแจ้งต่อไป
ท่านพ่อลี ถวายตัวเป็นศิษย์
ในช่วงของการเดินทางจากบ้านหนองขอน เข้าสู่เมืองอุบลราชธานี พระอาจารย์กงมา ในตอนนั้นท่านได้รับคำแนะนำจากองค์หลวงปู่มั่นจนเห็นผลแล้ว ได้ออกบำเพ็ญเพียรอยู่แห่งอื่น เมื่อได้ทราบข่าวการเดินทางขององค์หลวงปู่มั่น ที่จะเข้าสู่เมืองอุบลฯ จึงได้จาริกติดตามมา เมื่อมาถึงที่บ้านหนองสองห้อง อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลฯ ได้พบกับ ท่านพ่อลี ธมฺธโร
ซึ่งขณะนั้นเป็นพระในฝ่ายมหานิกายเช่นเดียวกับพระอาจารย์กงมาที่ยังมิได้ญัตติกรรมเป็นพระธรรมยุต พระอาจารย์กงมา ได้เล่าถึงองค์หลวงปู่มั่น จนท่านพ่อลีเกิดควาเลื่อมใส ได้ร่วมจาริกติดตามไป
เมื่อท่านทั้งสอง ได้พบองค์หลวงปู่มั่น ที่วัดบูรพา ประจวบกับ ท่านเจ้าคุณพระปัญญาพิศาลเถร ได้พำนักอยู่ด้วย องค์หลวงปู่มั่นจึงเห็นเหมาะสมที่จะทำญัตติกรรมเป็นพระธรรมยุต พระอาจารย์กงมา และท่านพ่อลี โดยมี ท่านเจ้าคุณพระปัญญาพิศาลเถร เป็นพระอุปัชฌาย์ ณ พัทธสีมาวัดบูรพา วันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ.2470
อนุสถานองค์หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ณ วัดสิทธิยาราม บ้านหนองขอน
สภาพปัจจุบันของบ้านหนองขอนและบ้านบ่อชะเนง
ปัจจุบันสถานที่พำนักเดิม ที่บ้านหนองขอน บริเวณเดิมขององค์หลวงปู่มั่น อยู่บริเวณป่าริมหนองขอน หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่าหนองสิม ปัจจุบัน อยู่ในพื้นที่วัดสิทธิยาราม บ้านหนองขอน ยังคงสภาพความสงบร่มรื่น เป็นสถานที่ในการปฏิบัติธรรมของบ้านหนองขอน ชาวบ้านได้ร่วมกันจัดสร้าง เป็นอนุสรณ์ขององค์หลวงปู่มั่นไว้
วัดเก่าบ่อ บ้านบ่อชะเนง สถานที่ซึ่งองค์หลวงปู่มั่น เคยมาพัก
ในส่วนของบ้านบ่อชะเนงนั้น ปัจจุบันบริเวณที่กล่าวกันว่า องค์หลวงปู่มั่น พร้อมคณะศิษยานุศิษย์ ได้มาบำเพ็ญเพียร อยู่ในบริเวณวัดบ้านเก่าบ่อ ปัจจุบันได้รับการยกย่องเป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอำนาจเจริญ แห่งที่ 1 อีกทั้งบ้านบ่อชะแนงนี้ ยังเป็นบ้านเกิดของหลวงปู่ขาว อนาลโย อดีตเจ้าอาวาสวัดถ้ำกลองเพล จังหนองบัวลำภู ศิษย์รูปสำคัญรูปหนึ่งขององค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
วัดบ่อชะเนง ตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน อุโบสถหลังเก่า เป็นอนุสรณ์ หลวงปู่ขาว อนาลโย
#อ้างอิง
1) ประวัติพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺตเถร โดย หลวงปู่มหาบัว ญาณสมฺปนฺโณ พ.ศ. 2547
2) ประวัติหลวงปู่มั่นฉบับสมบูรณ์ โดย หลวงพ่อวิริยังค์ ฯ พ.ศ.2541
3) หนังสือที่ะลึกในงานพระราชทานเพลิง พระญาณวิศิษฏ์ (พระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม) โดย พระอริยคุณาธาร พ.ศ. 2505
4) อัตตโนประวัติ พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ ลายมือหนังสือธรรมของ พระอาจารย์ฝั้ง อาจาโร วงศ์ธรรมยุติในภาคอีสาน โดย หลวงปู่เทศก์ เทสรํสี พ.ศ.2539
5) อาจาราภิวาท อนุสรณ์ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พ.ศ.2520
6) ตามรอยธุดงควัตร พระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล โดย ธิดาวรรณ-พิศิษฐ์ ไสยสมบัติ พ.ศ. 2546
7) ชีวประวัติพระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม, ฉบับปรับปรุง พศ.2535
8) จนฺทปชฺโชตเถรปูชา ที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (สนั่น จนฺทปชฺโชโต) วันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2542
9) ทางสู่สันติ อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ พระอาจารย์กงมา จิรปุญฺโญ วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ.2506
10) ธรรมประวัติ หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ ผู้มากมีบุญ