ตามรอยองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ร่วมเดินไปยังสถานที่ที่เกี่ยวเนื่องกับองค์หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต พร้อมเรื่องราวความสำคัญ ศิษยานุศิษย์ที่เข้ามาฝากตัวเป็นสานุศิษย์ถักทอสู่ "กองทัพธรรมพระกรรมฐาน" โดยเว็บมาสเตอร์ www.luangpumun.org และสุดยอดแฟนพันธุ์แท้ศิษยานุศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จากรายการ แฟนพันธุ์แท้ 2018

เมนูหลัก ตามรอยองค์หลวงปู่มั่น คลิ๊ก

หนองขอน วัดสิทธิยาราม

ตามรอยองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ตอนที่ 26
เหตุการณ์บ้านหนองขอน
บ้านหนองขอน อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ

ภายหลังออกจากบ้านสามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม คณะองค์หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ได้มาพบกันที่ จ. สกลนคร และเดินทางตัดตรงไปภูเขาแถบหนองสูง คำชะอี ออก อ. เลิงนกทา และมายังบ้านหนองขอน อ.หัวตะพาน จ.อุบลราชธานี (ปัจจุบันเป็น จ.อำนาจเจริญ) เมื่อมาถึงได้เกิดเหตุความไม่เข้าใจกันระหว่างพระสังฆธิการและข้าราชการในพื้นที่ จนเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า กรณีบ้านหนองขอน เมื่อทำความเข้าใจแล้ว องค์หลวงปู่มั่นได้จำพรรษาในปี พ.ศ.2470 ตามที่ พระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม ได้อาราธนามามายังบ้านเกิดได้โปรดญาติโยมของ ออกพรรษาแล้ว องค์หลวงปู่มั่น จึงได้เดินทางไปส่งโยมมารดายังบ้านคำบง แล้วจึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯ และเดินทางไปวิเวกยังภาคเหนือเป็นระยะเวลา 12 ปีต่อมา
 

ปรารภส่งโยมแม่
ในปี พ.ศ. 2470 องค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้เดินทางจาก จังหวัดนครพนม พร้อมกับคณะศิษยานุศิษย์ เป็นพระภิกษุสามเณรประมาณ 70 รูป และคุณแม่ชีจันทร์ แก่นแก้ว โยมมารดาขององค์หลวงปู่มั่น ได้บวชเป็นแม่ชี ที่องค์หลวงปู่มั่นได้รับมาดูแลเป็นเวลา 6 ปี (น่าจะรับโยมแม่กลับมา ในช่วงที่องค์หลวงปู่มั่น จำพรรษายัง บ้านห้วยทราย ในปี พ.ศ.2464) ที่ขณะนั้นโยมแม่อยู่ในวัยชราสุดกำลังที่พระลูกชาย คือ องค์หลวงปู่มั่น จะดูแลได้เอง จึงประสงค์ที่จะกลับสู่บ้านคำบง อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี ถิ่นกำเนิดในการดูแลของญาติพี่น้องในช่วงบั้นปลายนั้น 

 

จาริกอย่างใคร่ครวญ
ถึงแม้จะมีจำนวนพระภิกษุสามเณรเกือบหนึ่งร้อยองค์ แต่การจาริกได้ตกลงกันให้แยกเป็นคณะย่อยๆ เดินทางเว้นระยะห่างกัน ไม่รวมกันเป็นคณะใหญ่ แต่ละรูปแต่ละคณะ สามารถแวะบำเพ็ญเพียรส่วนองค์ในที่เหมาะสมได้ และกำหนดสถานที่ที่จะนัดรวมกันในปลายทาง

ในส่วนของชุมชน เพื่อไม่เป็นภาระต่อชาวบ้านรายทาง ในการเตรียมภัตตาหารใส่บาตร ถ้าหากคณะใหญ่เกินไป ชาวบ้านจะเตรียมภัตตาหารมาไม่พอ หรือเกินกำลังในการดูแลสงฆ์

 ประการสำคัญยังเป็นการเผยแผ่ธรรมะอบรมประชาชนไปพร้อมกันด้วย แต่และแห่งที่ได้แวะพัก ได้กำเนิดเป็นวัดป่ากรรมฐานในระยะต่อมา ดังเช่น คณะของ พระอาจารย์ฝั้น ประกอบด้วย พระอาจารย์กู่ พระอาจารย์อ่อน พระอาจารย์กว่า และพระเณรอีก 2 – 3 รูป รวมประมาณ 7 รูป

ก่อนที่จะเข้าเขต จ.อุบลฯ ได้นัดมาพบกันที่บ้านหัววัว ต.กำเมิด อ.กุดชุม ซึ่งปัจจุบันอยู่เขตจังหวัดยโสธร   
เมื่อองค์หลวงปู่มั่นและศิษย์ทั้งหลายมาถึงพร้อมกันแล้ว จึงได้เดินทางเข้าสู่พื้นที่ จ.อุบลฯ พร้อมกัน โดย องค์หลวงปู่มั่น แยกไปพักที่ บ้านหนองขอน โดยมี พระอาจารย์ฝั้น ติดตามไปจัดเสนาสนะถวาย

ส่วนศิษย์รูปอื่นๆ ไปพักที่บ้านหัวตะพาน ซึ่งอยู่ห่างจาก บ้านหนองขอน ประมาณ 50 เส้น (ประมาณ 2 กิโลเมตร) ปัจจุบัน อยู่ในพื้น จ.อำนาจเจริญ

วัดสิทธิยาราม บ้านหนองขอน วัดสิทธิยาราม บ้านหนองขอน

พิธีอัญเชิญรูปเหมือนองค์หลวงปู่มั่น วัดสิทธิยาราม บ้านหนองขอน ปี พ.ศ.2566

ความยุ่งยากที่เกิดขึ้น
เมื่อคณะศิษย์องค์หลวงปู่มั่น ได้เข้ามาพำนักทั้งสองพื้นที่ ปรากฏความไม่เข้าใจกัน เมื่อมีข้อกล่าวหาว่าพระกรรมฐานไม่ได้เรียนปริยัติและไม่ปฏิบัติตามพระวินัย ทำให้พระสังฆธิการและข้าราชการในท้องถิ่น ได้รับคำสั่งให้คณะศิษย์องค์หลวงปู่มั่น ออกจากพื้นที่ ซึ่งศิษยานุศิษย์ได้ช่วยกันแก้ไขด้วยความละมุนละม่อม ดังมีบันทึกในประวัติ พระอาจารย์ฝั้น และหลวงปู่เทสก์ ดังนี้

จากหนังสือประวัติ พระอาจารย์ฝั้น ได้บันทึกการแก้ไขในครั้งนั้นไว้ว่า เมื่อองค์หลวงปู่มั่นทราบเรื่อง ได้ให้พระอาจารย์ฝั้นนั่งสมาธิพิจารณา เมื่อปฏิบัติตามแล้วประสบนิมิตว่า “แผ่นดินตรงนั้นขาด” สองฟากไปหากันไม่ได้ ซึ่งองค์หลวงปู่มั่นได้แปลความว่าขาดการติดต่อระหว่างกันและกัน หรือพูดกันไม่เข้าใจ

องค์หลวงปู่มั่น จึงให้ พระอาจารย์มหาปิ่น และพระอาจารย์อ่อน ได้ออกเดินทางไปในเมืองอุบลฯ เพื่อพบกับเจ้าคณะจังหวัดอุบลฯ เจ้าคณะชี้แจงว่าท่านไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย จากนั้นได้นำจดหมายไปบอกนายอำเภอ ว่าเจ้าคณะจังหวัดอุบลฯ ท่านไม่ได้เกี่ยวข้อง เรื่องยุ่งยากที่เกิดขึ้นจึงได้ยุติลง

จากหนังสือประวัติ หลวงปู่เทสก์ ได้กล่าวถึงสาเหตุความยุ่งยาก มาจากคณะศิษย์ ได้ถูกกล่าวหาว่าตัดไม้ไม่ได้รับอนุญาต และตรวจใบสุทธิของพระเณรซึ่งขณะนั้นยังไม่มีกันทุกองค์ เนื่องจากคณะสงฆ์ยังไม่ได้ออกสุทธิบรรณทำให้ จึงต้องมีหนังสือมาขอให้ท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) ได้เร่งออกสุทธิบรรณให้

อีกทั้ง พระอาจารย์มหาปิ่น กับคณะอีก 2 – 3 องค์ ได้เดินทางไปเมืองอุบลฯ ได้เข้าพบ พระยาตรังคภูมาภิบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี  เพื่อเล่าเหตุการณ์ที่เดินทางมาตั้งแต่เมืองอุดรฯ จนไปถึงเมืองอุบลฯ อำเภออำนาจเจริญ (ปัจจุบัน คือ พื้นที่ในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ) โดยได้เผยแผ่ธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามาตลอดทาง

พระยาตรังคภูมาภิบาล เห็นชอบด้วย จึงมีหนังสือมาให้ เพื่อแจ้งให้ประชาชนมาฟังเทศน์พระกรรมฐาน ให้ตั้งอยู่ในไตรสรณคมน์ พระอาจารย์มหาปิ่นได้นำหนังสือกลับมาหาคณะศิษย์องค์หลวงปู่มั่น และดำเนินการอบรมสั่งสอนประชาชน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้ดำเนินการโดยได้รับอนุญาตจากทางราชการ

 

#อ้างอิง
1) ประวัติพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺตเถร โดย หลวงปู่มหาบัว ญาณสมฺปนฺโณ พ.ศ. 2547
2) ประวัติหลวงปู่มั่นฉบับสมบูรณ์ โดย หลวงพ่อวิริยังค์ ฯ พ.ศ.2541
3) หนังสือที่ะลึกในงานพระราชทานเพลิง พระญาณวิศิษฏ์ (พระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม) โดย พระอริยคุณาธาร พ.ศ. 2505
4) อัตตโนประวัติ พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ ลายมือหนังสือธรรมของ พระอาจารย์ฝั้ง อาจาโร วงศ์ธรรมยุติในภาคอีสาน โดย หลวงปู่เทศก์ เทสรํสี พ.ศ.2539
5) อาจาราภิวาท อนุสรณ์ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พ.ศ.2520
6) ตามรอยธุดงควัตร พระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล โดย ธิดาวรรณ-พิศิษฐ์ ไสยสมบัติ พ.ศ. 2546
7) ชีวประวัติพระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม, ฉบับปรับปรุง พศ.2535
8) จนฺทปชฺโชตเถรปูชา ที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (สนั่น จนฺทปชฺโชโต) วันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2542
9) ทางสู่สันติ อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ พระอาจารย์กงมา จิรปุญฺโญ วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ.2506
10) ธรรมประวัติ หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ ผู้มากมีบุญ